สงกรานต์ 61 ตร.สั่งห้ามสิบล้อขึ้นไปวิ่ง 3 เส้นทาง ช่วง 7 วันยกเว้นรถบรรทุก 3 ประเภท

พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 คณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รองโฆษก ตร. ร่วมกันแถลงมาตรการรักษาความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน 2561 ณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

โดยการแถลงข่าวระบุว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ได้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานจราจรอำนวยควาสะดวกเส้นทางให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนา โดยเฉพาะ 3 เส้นทางที่มีปัญหาเป็นประจำ คือ ทล. 2 ถนนมิตรภาพ ถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา และถนน 348 อ.อรัญประเทศ-บุรีรัมย์ ที่มีปัญหาช่องทางการจราจรที่ซ่อมสร้าง ผิวการจราจรเหลือน้อย จึงได้มีมาตรการห้ามรถ 10 ล้อขึ้นไปวิ่งระหว่างวันที่ 11-17 เมษายน ซึ่งมีการประเมินแล้วคาดว่าจะมีรถวิ่งออกต่างจังหวัดประมาณ 10 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากเทศกาลช่วงปีใหม่ประมาณ 7 เปอร์เซ็นต์

สำหรับการออกมาตรการควบคุมการวิ่งของรถสิบล้อในครั้งนี้ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดต่างๆ จึงต้องมีการสั่งห้ามรถสิบล้อขึ้นไปวิ่งใน 3 เส้นทางประกอบด้วย

– ทางหลวงหมายเลข 2 มิตรภาพ  ตั้งแต่หลัก กม.ที่ 15+600 ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ถึง กม.ที่ 93+500 ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะช่วง ริมเขื่อนลำตะคอง เนื่องจากมีการก่อสร้างสะพานยกระดับ ทำให้เหลือช่องทางเดินรถเพียง 2 ช่องทาง และบางจุดเป็นเส้นทางขึ้นเนินระยะทางไกลทำให้มีการชะลอตัวของรถ ในการนี้สามารถใช้เส้นทาง หมายเลข 21 (พุแค-หล่มสัก) ได้

– ทางหลวงหมายเลข 304 กบินทร์บุรี-ปักธงชัย ตั้งแต่หลัก กม.ที่ 165+400 ต.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถึง กม.ที่ 195+600 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ช่วงโครงการก่อสร้างอุโมงค์ลอดเขตอุทยาน

– ทางหลวงหมายเลข 348 อรัญประเทศ-นางรอง ตั้งแต่หลัก กม.ที่ 71 ถึง กม.ที่ 80 ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว เนื่องจากผิวการจราจรมีลักษณะค่อนข้างแคบ และมีประชาชนใช้เส้นทางเป็นจำนวนมาก

โดยเจ้าหน้าที่ได้มีข้อยกเว้นสำหรับรถบรรทุก 3 ชนิด ที่มีความจำเป็นต้องวิ่งคือรถบรรทุกน้ำมัน รถบรรทุกเครื่องอุปโภคบริโภค และรถบรรทุกพืชผักผลไม้อาหารทะเล แต่ถ้าเจ้าของกิจการรถบรรทุกที่มีความจำเป็นจะต้องวิ่งรถจริงๆ ให้ไปทำเรื่องขออนุญาติวิ่งที่ผู้บังคับการจังหวัดตามแต่ละเส้นทางที่กำหนดประกอบไปด้วย 5 จังหวัด ทั้งสระบุรี นครราชสีมา สระแก้ว บุรีรัมย์ ปราจีนบุรี โดยให้ผู้บังคับการจังหวัดหรือผู้ได้รับมอบหมายเป็นผู้พิจารณา โดยเขียนคำร้องถึงวัตุถประสงค์ พร้อมแนบสำเนาทะเบียนรถ ประกอบคำร้อง

ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มีการตั้งจุดตรวจสกัดทั้งเรื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ ยาเสพติด รถกระบะยังคงสามารถนั่งท้ายได้แต่ต้องอยู่ในความปลอดภัย ห้ามนั่งขอบกระบะหรือดื่มสุรา ถ้าเจ้าหน้าที่พบเห็นสามารถบังคับใช้กฎหมายได้ทันที ขณะที่การเล่นน้ำสงกรานต์ไม่สามารถนำรถบรรทุกน้ำเล่นได้ตามถนนหลวง ให้เล่นได้ตามจุดที่จังหวัดหรือชุมชนจัดให้เล่นเท่านั้น.