เขาใหญ่พบซากกระทิงนอนตายกลางแปลงปลูกไม้พยุง คาดถูกกระทิงอีกตัวชน
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2563 ว่าที่ พ.ต.นรินทร์ ปิ่นสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รับแจ้งจาก นายวันชัย แช่มจันทึก หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขญ.2 ผากระดาษ ว่านายชอุ่ม ชอุ่มผลหน.สถานนีวนวัฒน์วิจัยสวนปลูกป่าหมูสี ว่าพบซากกระทิงนอนตายอยู่บริเวณทางเดินในแปลงศึกษาวิจัยไม้พยุง ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ 6 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.พิชิต มีแสง ผกก. สภ.หมูสี แล้วรีบออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย นางสาวชนัญญา กาญจนาสาขา นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เข้าตรวจสอบในจุดที่ได้รับแจ้ง
เบื้องต้นจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พบซากกระทิงเพศผู้ อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี น้ำหนักไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม คาดว่าตายมาแล้วไม่เกินกว่า12ชั่วโมง เนื่องจากยังไม่แข็งตัวมาก นอกจากนี้ยังพบบาดแปลบริเวณลำคอ คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้กระทิงตาย ก่อนจะทำการเคลื่อนย้ายซากกระทิงตัวดังกล่าว มาดำเนินการผ่าชันสูตร ณ เขตการจัดการแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ 1
ด้าน นางสาวชนัญญา กาญจนาสาขา นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เปิดเผยว่า ผลการชันสูตรซากกระทิง พบว่า มีบาดแผลบริเวณกะโหลกหน้า จำนวน 2 แผล คาดว่าสัตว์ตายจากการสูญเสียเลือด และภาวะช็อคจากภาวะอ่อนแรง โดยลักษณะบาดแผลนั้นเกิดจากการต่อสู้ตามธรรมชาติของกระทิง และไม่มีร่องรอยการกระทำของมนุษย์แต่อย่างใด จึงได้ดำเนินการทำลายซากด้วยการขุดฝังและปูนขาวฆ่าเชื้อ
นางสาวชนัญญา ยังกล่าวอีกว่า ในช่วงเดือน มีนาคม-เมษายน เป็นช่วงเริ่มเข้าฤดูฝน มักเป็นช่วงที่กระทิงกำลังเป็นสัดฤดูผสมพันธ์ ตามธรรมชาติ กระทิงเพศผู้คงจะต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงกระทิงตัวเมีย ซึ่งในช่วงเวลานี้ไม่ได้มีเฉพาะกระทิง ช้างป่าก็เป็นช่วงที่ถึงฤดูกาลผสมพันธุ์เช่นกัน
ว่าที่ พ.ต.นรินทร์ ปิ่นสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยพิทักษ์ บริเวณแนวเขตอุทยานฯ พบว่าในช่วงนี้มีกระทิงป่า ชนต่อสู้กันเกือบทุกคืนเพื่อแย่งชิงตัวเมีย โดยเฉพาะในพื้นที่ใกล้หน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขญ.2 ผากระดาษ ที่มีกระทิงชุกชุมและออกมาหากินตามแนวเขตและในพื้นที่ของชาวบ้านบ่อยครั้ง บางตัวอาจจะไม่กลับเข้าในเขต ประชาชนต้องคอยสังเกตและระวังตัวเมื่อเดินเข้าบริเวณป่าใกล้แนวเขต โดยได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่คอยเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
