เจ้าหน้าที่ฝ่ายเกี่ยวข้อง เข้าให้การช่วยเหลือ เด็กชาย ป.4 เก็บของเก่าขายหาเงินช่วยพ่อ


จากกรณีที่มีการแชร์ผ่าน โซเซียลเน็ตเวิร์ค ขอความช่วยเหลือ ให้กับเด็กชาย อายุ 11 ขวบ ซึ่งเคยติดเกมอย่างหนัก ผันตัวหันมาปั่นจักรยานตะเวนเก็บของเก่าขาย เพื่อหาเงินช่วยเหลือพ่อซึ่งป่วยนั้น

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 กันยายน 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่าเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยเทศบาลเมืองปากช่อง นำโดย นายคมกฤษณ์ ลิ้มปัญญาเลิศ นายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง นายดิเรกฤทธิ์ พงษ์ศิริ รองนายกเทศมนตรีเมืองปากช่อง นายวิชาญ เงางาม ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านหนองสาหร่าย) พร้อมด้วยคณะครู และคณะทำงานจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ลงพื้นที่พร้อมประชุม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเด็กชายชัยชนะ พ่วงสาม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านหนองสาหร่าย เพื่อวางแนวทางในการช่วยเหลือในอนาคตต่อไป

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2017

ทั้งนี้สำหรับผลการประชุมได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า ทางโรงเรียนเทศบาล 1 บ้านหนองสาหร่าย ได้ทำการเปิดบัญชีเงินฝาก เลขที่บัญชี 303 – 092371 – 1 ชื่อบัญชี เด็กชายชัยชนะ พ่วงสาม ธนาคารกรุงไทย สาขาปากช่อง เพื่อรับบริจาคตามความประสงค์ของประชาชนที่มีการแจ้งความจำนงค์เข้ามา สำหรับบัญชีธนาคารดังกล่าวจะดูแลการเบิกจ่ายประกอบด้วย นายวิชาญ เงางาม ผู้อำนวยการโรงเรียน นายพูน นิสูงเนิน ตัวแทนคณะกรรมการสถานศึกษา และนายศิริพร พ่วงสาม ซึ่งเป็นพ่อของเด็ก โดยการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้ลงลายเซ็นต์สำหรับใช้ในการเบิกจ่าย 2 ใน 3 คน

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2017

โดยเด็กชายชัยชนะ พ่วงสาม เล่าว่า ในแต่ละวันจะได้เงินมาใช้จ่ายที่โรงเรียนวันละ 30 บาท และจะใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียน นำรถจักรยานออกไปตะเวนเก็บของเก่าตามถังขยะเป็นประจำทุกวัน โดยจะนำไปรวบรวมไว้ที่บ้าน จากนั้นเมื่อถึงวันเสาร์ จะนำของเก่าที่รวบรวมได้ไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าซึ่งอยู่ติดกับที่บ้าน โดยจะขายได้ประมาณสัปดาห์ละ 200 บาท สำหรับเงินที่ได้จะนำไปให้พ่อเก็บไว้ใช้ในครัวเรือน

จากนั้น คณะทำงานและสื่อมวลชนได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบ้านของเด็กชายชัยชนะ ซึ่งห่างจากโรงเรียนประมาณ 3 กิโลเมตร เพื่อดูความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมบริเวณโดยรอบ พบว่าที่พักอาศัยเป็นเพิงพักที่สร้างด้วยเศษไม้และเศษวัสดุต่างๆ ที่เก็บมาได้ ตั้งอยู่บนพื้นที่ในความดูแลขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จังหวัดนครราชสีมา โดยนายศิริพร พ่วงสาม พ่อของเด็กชายชัยชนะ เล่าว่า ตนและครอบครัวได้มาอาศัยในที่ดินดังกล่าวเป็นระยะเวลานานแล้ว ตั้งแต่ภรรยาซึ่งเป็นแม่ของน้องเต๋า ยังมีชีวิต โดยอาศัยไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านและช่วยจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราเดือนละ 500 บาท ส่วนน้ำที่ใช้สำหรับอุปโภคบริโภคนั้น ก็ต้องอาศัยต่อจากเพื่อนบ้านเช่นกันโดยเสียค่าใช้จ่ายครั้งละ 60 บาท ซึ่งในแต่ละเดือนจะต้องพ่วงน้ำจากเพื่อนบ้าน 3-4 ครั้ง

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2017

ขณะที่ นายดิเรกฤทธิ์ พงษ์ศิริ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองปากช่อง ซึ่งดูแลสถานศึกษาในสังกัดเทศบาลเมืองปากช่อง เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ทราบข่าวว่ามีการแชร์ขอความช่วยเหลือ น้องเต๋า หรือเด็กชายชัยชนะ พ่วงสาม นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 บ้านหนองสาหร่าย นั้น ตนได้สอบถามข้อมูลไปยังผู้อำนวยการ และคณะครู จึงได้ทราบว่า เด็กชายคนดังกล่าว เป็นเด็กที่มีผลการศึกษาอยู่ในระดับปานกลาง ขยันเรียน นอกจากนี้ยังได้รับความเอ็นดูจากคณะครูในโรงเรียนเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นบุคคลที่ซึ่งจะได้รับการพิจารณาให้เข้ารับทุนการศึกษาจากผู้ใจบุญ ที่มีความประสงค์จะมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้จัดสวัสดิการต่างๆ ที่นักเรียนควรได้รับอย่างต่อเนื่อง ตามระเบียบการของกระทรวงศึกษาธิการ รวมถึงการสมทบทุนจากคณะครู เพื่อช่วยเหลือในการจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ทางการศึกษาของนักเรียนที่ขาดแคลนเป็นประจำ

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2017

ด้านนางสาวศุภรักษ์ ศรีสมบัติ คุณครู โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านหนองสาหร่าย ผู้นำเรื่องราวของน้องเต๋า หรือเด็กชายชัยชนะ พ่วงสาม มาโพสต์เพื่อขอความช่วยเหลือนั้น ระบุว่าตนเองเป็นผู้สอนวิชาศิลปะในโรงเรียน ซึ่งในส่วนของการเรียนของเด็กชายชัยชนะ หรือน้องเต๋านั้น พบว่าจากการที่ตนได้สอนและให้การบ้านรวมถึงงานศิลปะต่างๆที่ให้นักเรียนทำส่งนั้นพบว่าน้องเต๋า ได้ทำส่งครบทุกชิ้นงาน สำหรับในวันที่ไปพบว่าน้องเต๋ากำลังคุ้ยถังขยะเพื่อหาของเก่าอยู่ข้างทางนั้น ตนได้เข้าไปพูดคุยสอบถาม และเห็นว่ารถจักรยานที่ใช้มีสภาพค่อนข้างเก่ายางแบน จึงได้นำเรื่องราวดังกล่าวโพสต์แชร์ในกลุ่มเพื่อนของตน เพื่อขอความช่วยเหลือในการซ่อมแซมรถจักรยานที่น้องเต๋าใช้ในการตะเวนเก็บของเก่าตามสถานที่ต่างๆ แต่เมื่อเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกแชร์ไปเป็นวงกว้างซึ่งตนเองก็ตกใจ ไม่คิดว่าจะมีประชาชนให้ความสนใจเรื่องราวดังกล่าวมากขนาดนี้ ตนเองมองว่าอาจเป็นความโชคดีของเด็กชายเต๋า ที่มีประชาชนสนใจที่ต้องการจะให้ความช่วยเหลือเป็นจำนวนมาก

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่http://www.pakchongnews.com

โพสต์โดย ปากช่องทูเดย์ เมื่อ วันพฤหัสบดีที่ 21 กันยายน 2017

Previous Article
Next Article

ใส่ความเห็น

– เยาวชนไทย ก้าวสู่อาชีพในฝัน

คลังข่าวรายเดือน