เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำควบคุมกลุ่มควันจากเหตุเพลิงไหม้โรงเก็บปุ๋ยขนาดใหญ่
ไฟไหม้โรงเก็บปุ๋ย กระสอบและสารเคมีเพื่อการเกษตร กลุ่มควันคลุ้งทั่วบริเวณมองเห็นไกลกว่า 3 กิโลเมตร ด้านนายอำเภอปากช่องสั่งการให้ควบคุมกลุ่มควันโดยเร็วหวั่นส่งผลกระทบต่อประชาชน ก่อนเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 6 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมกลุ่มควันได้สนิท
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 6 ตุลาคม 2559 ร.ต.อ.ภาณุพงศ์ ทัศญาณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้โกดังตรงพานิช ริมถนนปากช่อง-นิคมลำตะคอง เชิงสะพานต่างระดับหนองสาหร่าย ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง โดยเหตุได้เกิดขึ้นตั้งแต่เวลา 08.00 น. ที่ผ่านมา แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ก่อนจะมาเกิดเพลิงได้ลุกไหม้อีกครั้งในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. โดยมีกลุ่มควันลอยขึ้นสูงเกือบ 100 เมตรและลอยไปไกลหลายกิโลเมตร
หลังรับแจ้งจึงได้ประสานไปยังศูนย์วิทยุสื่อสาร อำเภอปากช่อง เพื่อขอรถน้ำ แล้วรีบรุดออกไปตรวจสอบ พร้อมด้วยนายปัญญา วงศ์ศรีแก้ว นายอำเภอปากช่อง นายกฤษณ์ พูลเกษม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนครราชสีมา(สาขาปากช่อง) สาธารณสุขอำเภอปากช่อง นายวิรัช มณีรัตนะกุล ประธานมูลนิธิสว่างวิชชาธรรมสถานปากช่อง นำเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยปากช่อง
ในที่เกิดเหตุบริเวณโกดังพื้นที่กว่า 100 ไร่ เป็นโกดังเก็บเมล็ดข้าวโพด โกดังเก็บข้าวเปลือก โกดังมันเส้น โกดังเก็บปุ๋ย พบกลุ่มควันพวงพุ่งออกมาจากโกดังที่ 2 จาก 3 โกดังใหญ่ซึ่งเป็นโกดังเก็บกระสอบและปุ๋ยเพื่อใช้ในการเกษตร กลุ่มควันปกคลุมทั่วบริเวณที่อยู่ด้านใต้ลมมองอะไรไม่เห็น ไกลกว่า 3 กม. เมื่อสูดเข้าไปมีอาการแสบจมูกและคันผิว ต้องใช้ผ้าปิดจมูก โดยมีรถตัก รถแบ็คโฮ ของโกดังเข้าทำการรื้ออาคารและนำปุ๋ยออกเพื่อไม่ให้ความร้อนระอุเกรงว่าจะมีปฏิกิริยาระเบิดขึ้นได้ พร้อมทั้งให้นำรถบรรทุกที่บรรทุกเม็ดข้าวโพดและมันสำปะหลัง จำนวนกว่า 20 คัน ซึ่งจอดอยู่ที่ลานจอดออกไปจากบริเวณ พร้อมทั้งแจ้งทางเครื่องขายเสียงให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกให้ห่างเพื่อเจ้าหน้าที่จำได้ทำงานได้สะดวกโดยเบื้องต้น โดยมีรถน้ำดับเพลิงของ เทศบาลเมืองปากช่อง และรถดับเพลิงของ อบต.ต่างๆในเขตอำเภอปากช่องกว่า 10 คันเข้าควบคุมสถานะการณ์ แต่เนื่องจากจุดที่เกิดไฟไหม้ระอุ ยังเข้าไปใกล้ไม่ได้เพราะควันไฟพุ่งกระจายมองไม่เห็นทำได้แค่เพียง การฉีดน้ำเข้าไปดับไฟที่ระอุอยู่ภายใน รวมทั้งใช้รถแบ็คโอนำปุ๋ยออกมาแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะสงบได้โดยง่าย กระทั่งเวลาประมาณ 17.30 น. เจ้าหน้าที่จึงสามารถควบคุมกลุ่มควันและเข้าเคลียร์พื้นที่ได้เป็นที่เรียบร้อย
นายกฤษณ์ พูลเกษม หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สวมชุดป้องกันสารเคมี รวมทั้งเตรียมพร้อมทั้งอุปกรณ์ ถังโฟรม แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ สาเหตุเบื้องต้นหน้าจะเกิดจาก ปุ๋ยที่หมดสภาพนำมาเก็บไว้นานเพื่อรอทำเป็นปุ๋ยอินทรีย์ อาจเกิดจากการอบทับกันเกิดความร้อนระอุจากสารเคมีที่ผสมในปุ๋ยขึ้น แต่จะเป็นสารอะไรหรือเกิดจากสาเหตุอะไรแน่ต้องรอตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้ง
ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขอำเภอปากช่องได้เร่งออกประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงให้อพยบไปอยู่ในที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว พร้อมให้การช่วยเหลือหากมีผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการดังกล่าว