หนุ่มใหญ่น้ำใจงาม เก็บกระเป๋ามีเงินกว่า 20,000 บาท ตามหาเจ้าของไม่พบ นำส่งให้ตำรวจช่วยหาเจ้าของ
หนุ่มใหญ่ชาวเลย น้ำใจงามเก็บกระเป๋าได้ ภายในมีเงินกว่า 20,000 หาเจ้าของไม่พบ นำส่งตำรวจให้ช่วยตามหา เจ้าตัวระบุ ไม่คิดจะเอาเงินจำนวนนี้มาเป็นเจ้าของ เพราะเห็นใจเจ้าของเงินที่แท้จริงขนาดเราทำเงินหายเรายังเสียดาย
เวลา 10.00 น.วันที่ 26 กรกฎาคม 2559 พ.ต.ท.บวร สมบัติธีระ สารวัตรสอบสวน สภ.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งจากนายธำรงค์ พานิช อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 17 หมู่ 2 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย อาชีพรับจ้างทำสวน ที่ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่าตนเก็บกระเป๋าเงินได้สีแดงได้ ที่สถานตรวจสภาพรถยนต์ของบริษัทวิริยะประกันภัย สาขาปากช่อง ซึ่งติดกับสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง ถนนมิตรภาพ สายเลี่ยงเมืองปากช่อง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยภายในกระเป๋ามีเงินสดกว่าสองหมื่นบาทและบัตรเอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพ 1 ใบไม่พบบัตรประชาชนของเจ้าของประเป๋าแต่อย่างใด ซึ่งนายธำรงค์ได้สอบถามประชาชนใกล้เคียง และตามหาเจ้าของกระเป๋าเงินอยู่นาน เมื่อไม่พบจึงได้นำมาแจ้งความที่ สภ.ปากช่อง เพื่อแจ้งความและลงบันทึกประจำวันเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามหาเจ้าของ เพราะเกรงว่าเจ้าของเงินจะได้รับความเดือดร้อน
จากนั้น พ.ต.ท.บวร สมบัติธีระ พนักงานสอบสวน จึงได้นำบัตรเอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพไปตรวจสอบที่ธนาคาร จึงทราบว่าเป็นบัตรเอทีเอ็มของนางนิภาพร ศรีสถลมารค อายุ 56 ปี บ้านเลขที่ 83/1 ถ.เทศบาล 3 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จึงได้ทำการติดต่อให้นางนิภาพร มารับกระเป๋าเงินคืน ซึ่งนางนิภาพรแสดงความดีใจอย่างเห็นได้ชัดและกล่าวว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้ไปยืมมาจากญาติเพื่อไปจ่ายเป็นค่าเทอมของหลานสองคน และคิดว่าจะไม่ได้คืนแล้ว
นายธำรงค์ พานิช ผู้เก็บกระเป๋าเงินได้กล่าวว่า ได้นำรถไปตรวจสภาพที่บริษัทวิริยะประกันภัยสาขาปากช่องซึ่งติดกับสำนักงานขนส่งจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง ขณะที่กำลังรอการตรวจสภาพรถได้เห็นกระเป๋าเงินตกอยู่บริเวณที่จอดรถ จึงได้เก็บไว้และพยายามตามหาเจ้าของอยู่นานแต่ก็ไม่มีใครแสดงตนว่าเป็นเจ้าของ จึงได้ตัดสินใจนำมาแจ้งความเพื่อตามหาเจ้าของ ซึ่งตนเองไม่คิดที่จะเอาเงินจำนวนนี้มาเป็นเจ้าของ เพราะเห็นใจเจ้าของเงินที่แท้จริงขนาดเราทำเงินหายเรายังเสียดาย