ปากช่องบุกตรวจโกดังเก็บไม้พะยูง-ไม้สักทอง พร้อมตรวจอายัดไม้แปรรูปจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2561 พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ บรรจงจิตร ผกก.สภ.ปากช่อง พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพพร ปราชญ์กระโทก สว.(สอบสวน) สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ร่วมกับ นายบรรเจิด มากศิริ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.๑ (ปากช่อง) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบ โกดังด้านหลัง บ้านเลขที่ 78/1 ม.8 บ้านทรายทอง ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา หลังมีรายงานการร้องเรียนจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.ภ.3 ว่าบริเวณบ้านเลขที่ดังกล่าว ปลูกด้วยไม้สักทั้งหลัง และมีการนำไม้หวงห้ามทั้งแปรรูปแล้วและยังไม่แปรรูป มาเก็บซ่อนไว้เป็นจำนวนมาก อาจจะเป็นแหล่งสะสมไม้พะยูงมาเก็บเพื่อส่งขายต่อ จึงขอให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ

จากการตรวจสอบบริเวณโกดังภายในบ้านหลังดังกล่าว พบไม้พะยูงจำนวน 75 ท่อน ไม้สัก 72 ท่อน นอกจากนี้ยังพบอาวุธปืนลูกโม่ขนาด .357 และกระสุนบรรจุภายในแม๊กนั่มจำนวน 6 นัด เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการตรวจสอบ พบไม้พะยูงแต่ละท่อนมีการตีตราบนหน้าท่อนไม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ไม้ดังกล่าวเป็นไม้หวงห้ามแต่ทำไม้จึงมีการตีตราประทับได้ ซึ่งรวมแล้วมีมูลค่าหลายล้านบาท

ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 ธันวาคม 2561 พ.ต.ท.นพพร ปราชญ์กระโทก สว.(สอบสวน) สภ.ปากช่อง ได้เรียกนายเสงี่ยม บุรีรัมย์ อายุ 69 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้ครอบครองได้พะยูงและไม้สักที่เจ้าหน้าที่ตรวจยึดเพื่อทำการสอบปากคำ พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารอาวุธปืน โดนนายเสงี่ยมให้การว่า ปืนได้ซื้อมาจากเจ้าหน้าเป็นปืนของโครงการที่ตำรวจ แต่เอกสารการครอบครองยังหาไม่เจอ พ.ต.ท.นพพร ปราชญ์กระโทก สว.(สอบสวน) จึงแจ้งข้อหาครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสูนปืนโดยผิดกฎหมาย พร้อมให้ประกันตัวไป ส่วนการครอบครองไม้พยุง และไม้สัก ต้องรอเอกสารการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ที่ นม.๑ (ปากช่อง) ยืนยันอีกครั้ง

จากนั้นเมื่อผู้สื่อข่าวได้ทำการสอบถามในส่วนของการตรวจอายัดไม้พะยูงพบว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้ยังไม่ได้เคลื่อนย้ายนำไปเก็บรักษาตามขั้นตอน เพราะการครอบครองไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้ามมีความผิดตามกฎหมาย โดยเมื่อผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์เพื่อสอบถามรายละเอียดกับนายบรรเจิด มากศิริ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นม.๑ (ปากช่อง) แต่ไม่รับสาย ซึ่งคาดว่าเนื่องจากว่าเป็นวันหยุดจึงไม่สะดวกรับสาย